ภาพรวมประเทศสิงคโปร์ ระบบการศึกษาสิงคโปร์

สิงคโปร์ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในการติดต่อราชการและในชีวิตประจำวัน
นักเรียนจะได้ 2 ภาษาคือ ภาษาอังกฤษและภาษาจีนกลาง

image01

ชื่อทางการ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประเทศสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางพาณิชย์สำคัญของโลกแห่งหนึ่ง เมืองหลวง คือ สิงคโปร์

ประชากร ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ชาวมาเลย์ ชาวอินเดีย และอื่นๆ ซึ่งอยู่กันโดยไม่มีปัญหา ความขัดแย้งด้านเชื้อชาติ

ภาษา ภาษาทางราชการ คือ ภาษามาเลย์ จีนกลาง ทมิฬ และอังกฤษ สิงคโปร์ส่งเสริมให้ประชาชนพูด 2 ภาษา โดยเฉพาะจีนกลาง ในขณะที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในการติดต่องานและในชีวิตประจำวัน

การปกครอง ระบอบการปกครองของสิงคโปร์ คือ ระบอบประชาธิปไตย มีประธานาธิบดีเป็นประมุขมีประธานาธิบดีเป็นประมุข

สภาพอากาศ สิงคโปร์ อากาศร้อนชื้น มีฝนตกตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ย 26.8 องศาเซลเซียส ลักษณะภูมิอากาศของสิงคโปร์ คล้ายกับประเทศไทย คือ เป็นแบบร้อนชื้น ฝนตกชุกตลอดปีเนื่องจากอิทธิพลทางทะเลและที่ตั้งของประเทศ

เวลาสิงคโปร์ต่างจากไทย สิงคโปร์จะเร็วกว่าไทยประมาณ 1 ชั่วโมง

ระบบไฟฟ้า ลักษณะหัวปลั๊กไฟ ระบบไฟฟ้าที่สิงคโปร์จะเป็น 220 วัตต์เหมือนกับไทย ลักษณะหัวปลั๊กสิงคโปร์ใช้ด้วยกันได้

ค่าครองชีพ มาตรฐานคุณภาพชีวิตของสิงคโปร์อยู่ในระดับต้นๆของเอเชีย เทียบกับประเทศอื่นๆในตะวันตกแล้วค่าครองชีพที่สิงคโปร์นับว่าไม่สูงมากนัก ราคาสินค้าพื้นฐานอย่างอาหาร หรือเสื้อผ้าก็นับว่าสมเหตุสมผล

กฎหมาย สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านความปลอดภัย ความสะอาด และคนสิงคโปร์มีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่สูง เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีกฎหมายลงโทษร้ายแรง คือ การประหารชีวิต หรือโทษจำคุกระยะยาว กฏหมายที่ค่อนข้างรุนแรงคือ ที่สิงคโปร์ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีโทษปรับถึง S$1,000 ห้ามการทิ้งเศษขยะลง รวมถึงการห้ามถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ และห้ามเคี้ยวหมากฝรั่งด้วย ส่วนการเสพหรือจำหน่ายยาเสพติดในประเทศสิงคโปร์นั้นมีความผิดขั้นร้ายแรงถึงประหารชีวิต

สถานที่ท่องเที่ยว ถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมักอยู่ในตอนกลาง ได้แก่ พื้นที่บริเวณ Marina Bay, ปากแม่น้ำสิงคโปร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมอร์ไลออน (Merlion) , อาคารโรงละคร Esplanade ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่, สถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำ บริเวณพื้นที่ริมน้ำ ได้แก่ Clarke Quay, Boat Quay, ย่านไชน่าทาวน์ (China Town) , ย่าน Little India, ย่านชอปปิ้ง บนถนน Orchard ส่วนบริเวณเมืองรอบนอกนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวกระจายอยู่โดยรอบ สามารถเข้าถึงได้โดยรถไฟ MRT และ รถประจำทาง ได้แก่ เกาะเซนโตซา (Sentosa Island) บริเวณ Harbour Front, สวนสัตว์กลางคืน (Night Safari) , สวนนกจูร่ง (Jurong Birdpark) เป็นต้น

ระบบการศึกษาของสิงค์โปร์

image02

สิงคโปร์สร้างชาติด้วยการศึกษา ทำให้คนมีคุณภาพตามระบบการศึกษาที่ยอดเยี่ยม

สิงคโปร์ เป็นหนึ่งในประเทศที่ดีที่สุดในโลกทั้งทางด้านการสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ นอกจากนี้ยังเป็นที่รวมของมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกและยังติดโผ Rank การจัดอันดับโลกอยู่หลายปี โดยเฉพาะด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ รัฐบาลสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยจัดการศึกษาที่วัดศักยภาพเด็กโดยตลอด ทั้งส่งเสริมให้ใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาหลักอย่างมีคุณภาพ และทุกโรงเรียนควบคุมโดยกระทรวงศึกษาธิการโดยตรงและนักเรียนจำเป็นต้องสอบภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ เป็นวิชาหลัก

ทำไมถึงควรเลือกเรียนที่ประเทศสิงคโปร์
ประเทศสิงคโปร์มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าประเทศอื่น เช่น ออสเตรเลีย อเมริกา อังกฤษทั้งด้านการเรียน และ ค่าที่อยู่อาศัย ค่าตั๋วเครื่องบิน และยังสะดวกในการเดินทาง เนื่องจาก ประเทศสิงคโปร์อยู่ใกล้กับประเทศไทย โดยใช้ระยะเวลาการบินเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น และนอกจากนี้ การที่ได้ไปศึกษาที่ประเทศสิงคโปร์ นักเรียนยังได้เรียนรู้ถึง 2 ภาษา ซึ้งมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และสามารถเลือก ภาษาจีน,ภาษามาเลย์และทมิฬภาษาใดภาษานึ่งเป็นภาษารอง

ระดับอนุบาล (Pre-School) โดยศูนย์ดูแลเด็กเล็กจะรับนักเรียนอายุ 3-6 ขวบ

ระดับประถมศึกษา (Primary School) ในสิงคโปร์จะต้องใช้เวลาเรียน 6 ปี ในระดับประถมศึกษา ประกอบด้วย การเรียนชั้นประถมต้น (Foundation Stage) 4 ปี ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-4 และชั้นประถมปลาย (Orientation Stage) อีก 2 ปี ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 ในหลักสูตรขั้นพื้นฐานวิชาหลักที่ได้เรียน คือ วิชาภาษาอังกฤษ ภาษาท้องถิ่น (Mother Tongue)

ระดับมัธยมศึกษา (Secondary School) โรงเรียนมัธยมในสิงคโปร์มีหลายรูปแบบ ทั้งให้ทุนทั้งหมดโดยรัฐบาล หรือเพียงส่วนเดียว หรือนักเรียนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดนักเรียนในแผนการเรียนพิเศษ (Special and Express) จะใช้เวลาเรียนเพียง 4 ปี ขณะที่นักเรียนในแผนการเรียนปกติ (Normal) จะใช้เวลาเรียน 5 ปี โดยนักเรียนในแผนการเรียนพิเศษจะสอบ Singapore Cambridge General Certificate of Education “Ordinary” (GCE “O” Level) เมื่อเรียนครบ 4 ปี ส่วนนักเรียนหลักสูตรปกติใช้เวลาเรียน 5 ปีนั้น จะสอบ Singapore Cambridge General Certificate of Education “Normal” (GCE “N” Level) ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนสามารถเลือกได้ว่าจะเรียนทางสายศิลป์ วิทยาศาสตร์ ธุรกิจการค้า หรือสายวิชาชีพ

ระดับเตรียมอุดมศึกษา เมื่อนักเรียนสอบ GCE “O” Level ผ่านได้แล้ว นักเรียนสามารถสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับจูเนียร์ คอลเลจ เป็นเวลา 2 ปี หรือศึกษาที่สถาบันการศึกษา (Centralised Institute) เป็นเวลา 3 ปี เพื่อเตรียมศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยจูเนียร์ คอลเลจ และสถาบันกลางการศึกษาจะสอนทุกอย่างเพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียนเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยได้ หลักสูตรหลักแบ่งเป็น 2 หลักสูตร คือ วิชาความรู้ทั่วไป (General Paper) และภาษาแม่ เมื่อเรียนจบจูเนียร์ คอลเลจ นักเรียนจะต้องสอบประกาศนียบัตรการศึกษาสิงคโปร์-แคมบริดจ์ ระดับทั่วไป (Singapore-Cambridge General Certificate of Education “Advanced” : GCE “A” Level)  

ระดับอุดมศึกษา (Tertiary Education) ประกอบด้วย

1) โพลีเทคนิค ปัจจุบันมีโพลีเทคนิค 5 แห่งในสิงคโปร์ เปิดหลักสูตรการอบรมที่หลากหลายให้แก่นักศึกษาที่ต้องการฝึกปรือฝีมือในระดับประกาศนียบัตร และอนุปริญญาโดยมีหลักสูตรการสอนที่มุ่งเน้นให้สามารถประกอบอาชีพในอนาคต เช่น วิศวกรรม บริหารธุรกิจ การสื่อสารมวลชน การออกแบบดีไซน์ เทคโนโลยีสารสนเทศ

2) สถาบันเทคนิคศึกษา (Institute of Technical Education ITE) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักเรียนที่จบจากชั้นมัธยมศึกษาและต้องการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมแขนงต่างๆ และยังมีโปรแกรมสำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องการเพิ่มพูน ความรู้ของตนด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมอีกด้วย 

3) ระดับสากลมหาวิทยาลัย (Universities) มหาวิทยาลัยในสิงคโปร์มี 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University Of Singapore: NUS) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง (Nanyang Technological University: NTU) และมหาวิทยาลัยการบริการการจัดการแห่งสิงคโปร์ (Singapore Management University: SMU) มหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่งได้ผลิตนักศึกษาระดับปริญญาที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยทั้งหมดยังมีทุนเพื่อการศึกษาและการวิจัยในระดับปริญญาโทด้วย 

4) มหาวิทยาลัยนานาชาติในสิงคโปร์ ประเทศสิงคโปร์มีนโยบายที่ฉลาด เปิดโอกาสให้มหาวิทยาลัยต่างประเทศชั้นนำระดับโลกตั้งอยู่ในสิงคโปร์อีกจำนวนมาก มหาวิทยาลัยชั้นนำเหล่านี้ได้ตั้งวิทยาเขต หรือมีความร่วมมือและจัดทำหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยของสิงคโปร์ เพื่อยกระดับให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาค

นอกจากนี้ยังมีสถาบันเอกชนที่น่าสนใจ มากกว่า 300 สถาบัน ตั้งแต่ธุรกิจ เทคโนโลยี ศิลปะ จนถึงโรงเรียนสอนภาษา เพื่อตอบสนองความต้องการของชาวสิงคโปร์เองและนักเรียนจากต่างชาติ ตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตร อนุปริญญา จนถึงปริญญาระดับต่างๆ โดยที่สถาบันการศึกษาเอกชนในสิงคโปร์มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมากมายจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลีย

เรียนภาษาที่สิงคโปร์ เรียนซัมเมอร์ที่สิงคโปร์ เรียนภาษาที่สิงคโปร์ระยะสั้น มีสถาบันสอนภาษาในอังกฤษมากมาย เรียนภาษาที่สิงคโปร์ ราคาสอบถามพี่ๆบีเบรฟได้ค่ะ

ขอบคุณข้อมูล : เอเชียนไทย, สำนักงาน ก.พ., AEC Tourism